จากการค้นพบเทคนิคการนวดตารักษาต้อหิน ทำให้ค้นพบต่อเนื่องถึงกลไกการควบคุมระบบไหลเวียนเลือดของแผ่น Lamina cribrosa ที่กระทำต่อ เส้นเลือดแดง Central retinal artery และเส้นเลือดดำ Central retinal vein ทำให้ห้วงเวลาที่ผ่านมา สามารถรักษาโรคเส้นเลือดดำของจอประสาทตาอุดตัน ( Central retinal vein occlusion )ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยให้รอดพ้นจากตาบอดมากว่า 10 รายแล้ว และยังได้ให้ความเห็นไปยังเพื่อนจักษุแพทย์ว่า การให้ยา Aspirin หรือ ยาละลายลิ่มเลือด นอกจากจะไม่ช่วยให้โรคเส้นเลือดดำจอประสาทตาอุดตันดีขึ้นแล้ว กลับทำให้โรคเลวลงเร็วจากภาวะเลือดออกมากขึ้น เพราะกลไกที่แท้จริงเกิดจากการรัดตัวของแผ่น Lamina cribrosa ที่กระทำต่อเส้นเลือดดำ ดังนั้น การนวดตาที่ไปช่วยยืดการรัดตัวของแผ่น Lamina cribrosa จึงไปแก้ที่ต้นเหตุของโรคและช่วยผู้ป่วยไม่ให้ตาบอดได้ ต่อมา ผมได้มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคเส้นเลือดแดงจอประสาทตาอุดตัน จึงได้ใช้การนวดตารักษาผู้ป่วยที่มาขอร้องให้ช่วยเหลือ เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้อยู่ในภาวะจนตรอกไร้ที่พึ่งแล้วทั้งสิ้น ปรากฏว่าได้ผลดีตามคาด เป็นการยืนยันทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่าง Lamina cribrosa และ เส้นเลือดแดง/เส้นเลือดดำของจอประสาทตา อย่างสมบูรณ์แล้ว (ดูกลไกการเกิดโรคของ CRVO) ผู้ป่วยทั้งหมดกลับมามองเห็นได้ปกติหรือเกือบปกติทุกราย ดังตัวอย่างผู้ป่วยดังต่อไปนี้
นายณรงค์ .........อายุ 63 ปี
ประวัติ วันที่ 2 พ.ค. 2560 ตาขวามืดดับขณะอาบน้ำ ไปตรวจที่คลินิกตา แนะนำไปโรงพยาบาลรัฐย่านดอนเมือง ตรวจแล้วแนะนำให้ไปใช้สิทธิ์ประกันตนที่รพ.เอกชน ย่านประชาชื่น จักษุแพทย์บอกว่ามาช้าไป โรคนี้ต้องรักษาภายใน 24 ชั่วโมง จึงไปตรวจที่คลินิกศูนย์แพทย์.......ย่านพระรามเก้า จักษุแพทย์บอกว่ารักษาไม่ได้ และแนะนำให้กลับไปใช้สิทธิ์ ตรวจร่างกายและหัวใจเพื่อหาสาเหตุ จึงตระเวนไปตรวจรพ.วิภา.... จักษุแพทย์ก็ยืนยันว่ารักษาไม่ได้ และแนะนำให้ไปเข้า Hyperbaric chamber ที่รพ.สมิ..... จักษุแพทย์บอกว่า เป็นมา 9 วันแล้ว ไม่มีประโยชน์ในการรักษา แต่ผู้ป่วยยืนยันที่จะขอรักษา จึงทำการรักษาไป 9 วัน ระหว่างนั้น ก้ลองไปตรวจที่รพ.ตา ย่านอโศก จักษุแพทย์ก็ยังให้ความเห็นเหมือนเดิมคือรักษาไม่ได้
วันที่ 22 พ.ค. 2560 20 วันหลังเกิดอาการ ระดับการมองเห็น ตาขวา Fc 2 feet ( นับนิ้วได้ที่ระยะ 2 ฟุตเท่านั้น ตาซ้าย 20/40-2 ตรวจจอประสาทตา พบว่า ขั้วประสาทตาซีดเหลือง cherry red spot ไม่ชัดเจนแล้ว ให้การวินิจฉัยเป็น เส้นเลือดแดงของจอประสาทตาตีบตัน ( CRAO ) ให้การรักษาโดย Steroid + ยาบำรุง + Aspirin + นวดตา
วันที่ 31 พ.ค. 2560 1 สัปดาห์หลังการรักษา ระดับการมองเห็น ตาขวา 5/200 ( สมารถอ่านตัวเลขได้ที่ระยะ 5 ฟุต
วันที่ 14 มิ.ย. 2560 3 สัปดาห์หลังการรักษา ระดับการมองเห็น ตาขวา 9/200 ( สมารถอ่านตัวเลขได้ที่ระยะ 9 ฟุต
วันที่ 26 มิ.ย. 2560 5 สัปดาห์หลังการรักษา ระดับการมองเห็น ตาขวา 13/200 ( สมารถอ่านตัวเลขได้ที่ระยะ 13 ฟุต ตาซ้าย 20/20-1 ( ตาซ้ายก็เห็นดีขึ้นด้วย ) ผู้ป่วยพอใจกับการรักษาที่การมองเห็นดีขึ้นเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง
และมีแนวโน้มจะดีกว่านี้อีก
นางมาลี พัฒนศรี อายุ 68 ปี อาชีพ แม่บ้าน ภูมิลำเนา บางแค กทม. โทร. 081-7771560 02-4217190
ประวัติ 3 วัน ก่อน ตาขวามองไม่เห็น จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง พบว่าเป็นโรคเส้นเลือดแดงจอประสาทตาอุดตัน รักษาไม่ได้ จึงไปตรวจที่โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง ก็บอกว่ารักษาไม่ได้เช่นกัน จึงมาตรวจที่รพ.เอกชัย
14/9/58 VA ตาขวานับนิ้วได้ที่ระยะ 2 ฟุต VA ตาซ้าย 20/100 ph 20/30-1
ตรวจจอตา พบ cherry red spot
เริ่มรักษาด้วย การนวดตา + steroid + aspirin
28/9/58 VA ตาขวานับนิ้วได้ที่ระยะ 3 ฟุต
ตรวจจอตา พบว่าไม่ซีดขาวแล้ว
9/11/58 VA ตาขวานับนิ้วได้ที่ระยะ 4 ฟุต
7/12/58 VA ตาขวา 20/100 ph 20/70+2 (อ่านตัวเลขได้ถึงแถว 3)
14/3/59 VA ตาขวา 20/70-2 ph 20/50-2 (อ่านตัวเลขได้ถึงแถว 4)
นาย อุทิฐ ... อายุ 59 ปี ภูมิลำเนา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่มีโรคประจำตัว
ประวัติ 1 สัปดาห์ก่อนมาโรงพยาบาล ตื่นนอนมาพบว่าตาขวามืดดับ จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคเส้นเลือดแดงของจอประสาทตาอุดตัน ( CRAO ) 2 วันผ่านไป อาการไม่ดีขึ้น จึงติดต่อจักษุแพทย์ที่เป็นเพื่อนที่ลากิจไปทำธุระที่กรุงเทพฯ เพื่อนจึงรีบกลับมาตรวจและให้การรักษาอยู่ 5 วัน มองเห็นด้านข้างเล็กน้อย เหมือนมองผ่านช่องเล็กๆเท่านั้น รอบๆยังดำมืดสนิท เพื่อนจึงเขียนใบส่งตัวเพื่อการรักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราช แต่ให้ข้อมูลว่า โรคนี้ยังไม่มีที่ไหนรักษาได้ และแนะนำให้ค้นดูข้อมูลการรักษาโรคนี้ที่โรงพยาบาลเอกชัย และให้รีบตัดสินใจ เพราะยิ่งช้า ยิ่งเสียโอกาสที่จะฟื้นการมองเห็น ผู้ป่วยจึงตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่รพ.เอกชัยทันที
3 สัปดาห์ หลังการรักษา ตาขวามองเห็นโดยรอบหมดแล้ว ( ลานสายตากลับคืนได้หมด ) ความคมชัด อ่านตัวเลขแถวแรกได้ที่ 20 ฟุต
ภาพถ่ายจอประสาทตาก่อนและหลังการรักษา 3 สัปดาห์
1. นายพิศิษฐ์ ปริพัฒน์วงศกร อายุ 48 ปี
โทร. 081-8105563 , เบอร์โทร.ภรรยา 081-9376040
ผู้ป่วยมารับการตรวจหลังตามัวมา 1 วัน พบว่าเป็น Branch retinal artery occlusion
วันที่ 4 เมย. 2555 V.A.,LE 20/40-2 เริ่มรักษาด้วยการนวดตา
วันที่ 18 เมย. 2555 V.A.,LE 20/20-1 บริเวณรอยซีดขาวของจอประสาทตาจากหายหมดแล้ว
วันที่ 2 พค. 2555
V.A.,LE 20/20
2. นส.อารีรัตน์ พุ่มศิริอุดม โทร. 081-8448339
รพ.ศิริราช วินิจฉัย Central retinal artery occlusion และแจ้งผู้ป่วยว่าโรคนี้รักษาไม่ได้ หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยเทคนิคการนวดตา ผลการรักษา การมองเห็น V.A.จาก 20/200 ดีขึ้นเป็น 20/20 ในเวลา 3 เดือน
3.นายกมล นุอินทร์ อายุ 40 ปี อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว โทร.081-8089495
ประวัติ 10 วันก่อน มีอาการตาขวามืดดับไปทันทีในช่วงหัวค่ำ ขณะนั่งดูโทรทัศน์ วันรุ่งขึ้นอาการยังไม่ดีขึ้น จึงไปรับการตรวจที่รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต จักษุแพทย์วินิจฉัยเป็นโรคเส้นเลือดแดงใหญ่จอประสาทตาอุดตัน และให้รับการรักษาโดยใช้อ๊อกซเจนในห้องอัดแรงดันสูง วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1 สัปดาห์ การมองเห็นดีขึ้นบ้าง และจักษุแพทย์ไม่มีการรักษามากกว่านี้
วันที่ 24 กรกฎาคม 2555 เข้ารับการรักษาด้วยการนวดตา ระดับการมองเห็นในวันแรก ตาขวา Fc 1 ฟุต ตาซ้าย 20/20
วันที่ 31 กรกฎาคม 2555 ผู้ป่วยแจ้งว่า แสงดูสว่างชึ้น แต่ยังพร่ามัวอยู่ ระดับการมองเห็นในวันนี้ ตาขวา Fc 1 ฟุต ตาซ้าย 20/20
วันที่ 8 สิงหาคม 2555 ผู้ป่วยแจ้งว่า เห็นดีขึ้นทั้งตรงกลางและด้านข้าง ( ลานสายตา ) ระดับการมองเห็นในวันนี้ ตาขวา Fc 3 ฟุต ตาซ้าย 20/20
วันที่ 14 สิงหาคม 2555 ผู้ป่วยแจ้งว่า เห็นดีขึ้นตามลำดับ ระดับการมองเห็นในวันนี้ ตาขวา 10/200 ตาซ้าย 20/20
วันที่ 21 สิงหาคม 2555 ผู้ป่วยแจ้งว่า เห็นดีขึ้นอีก ระดับการมองเห็นในวันนี้ ตาขวา 20/200 ตาซ้าย 20/20
วันที่ 21 กันยายน 2555 ผู้ป่วยแจ้งว่าลานสายตาเห็นหมดแล้วยกเว้นบริเวณศูนย์กลางการมองเห็นที่ยังมีฝ้าขาวบังอยู่
4.น.ส.กำไร อัศวาธิบดีกุล อายุ 49 ปี โทร. 02-4163591
ปัญหา ตาซ้ายมองเหมือนมีปื้นดำบดบังมา 3 วัน
ประวัติการเจ็บป่วย 10ปีก่อน เคยมีอาการตาซ้ายมืดบอดสนิทประมาณ 1-2 ชั่วโมง ( Amaurosis fugax ) แล้วค่อยๆกลับมามองเห็นเอง ไม่กี่วันต่อมา ตื่นนอนขึ้นมา พบว่าตาซ้ายมืดบอดสนิทชั่วคราวอีก จึงไปตรวจที่รพ.จุฬาฯ จักษุแพทย์สงสัยเส้นเลือดแดงจอตาตีบ จึงให้ทานยา Baby aspirin วันละ 1 เม็ด ทุกวันมาตลอด 10 ปี
1 เดือน ก่อน ไปทำศัลยกรรมตกแต่งเปลือกตาบนสองข้าง จึงหยุดยา aspirin 2 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด และ 1 สัปดาห์ หลังผ่าตัด จึงเกิดปัญหาตาซ้ายมัวขึ้นมาอีก
วันที่ 28 สิงหาคม 2555 ระดับการมองเห็น V.A. ตาขวา 20/20 ตาซ้าย 20/30 pinhole ไม่ดีขึ้น
ผลการตรวจจอประสาทตา พบขั้วประสาทตามีรอยฝ่อต้อหินเรื้อรัง ด้านขวา 0.5 ด้านซ้าย 0.3 และที่จอประสาทตาพบรอยบวมเป็นหย่อมๆ และมีหย่อมหนึ่งอยู่ประชิดศูนย์กลางจอตา ( Macula )
การวินิจฉัย ได้แจ้งผู้ป่วยว่า อาจจะเป็นการติดเชื้อที่จอตา ( Retinitis ) เช่นจากเชื้อวัณโรค แต่ที่คิดถึงมากที่สุดคือ ภาวะจอตาขาดเลือดและบวมน้ำเป็นหย่อมๆจากการขาดยา aspirin จึงเริ่มให้การรักษาด้วยการนวดตา
วันที่ 4 กันยายน 2555 การมองเห็นตาซ้ายดีขึ้น V.A. ตาขวา 20/20 ตาซ้าย 20/30 pinhole 20/20
ผู้ป่วยแจ้งว่า รอยปื้นเทาดำจางลงไปมาก ตรวจจอตาพบว่า รอยบวมยุบลงบ้างแล้ว
วันที่ 11 กันยายน 2555 การมองเห็นตาซ้ายดีขึ้นอีก V.A. ตาขวา 20/20 ตาซ้าย 20/20-2
ผู้ป่วยแจ้งว่า รอยปื้นเทาดำจางหายหมดแล้ว ตรวจจอตาพบว่า รอยบวมยุบราบลงเกือบปกติ แต่ยังเห็นรอยอยู่
วันที่ 25 กันยายน 2555 การมองเห็นตาซ้ายดีขึ้นอีก V.A. ตาขวา 20/20 ตาซ้าย 20/20-1
ผู้ป่วยแจ้งว่า การมองเห็นปกติดีแล้ว ตรวจจอตาพบว่า รอยบวมยุบลงราบสนิท แต่ยังเห็นรอยอยู่
“ จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้ ( Imagination is more important than knowledge )“ วลีอมตะของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ผมขอฝากให้จักษุแพทย์ที่แต่ละท่านมีสติปัญญาล้ำเลิศอยู่แล้ว ให้ฉุกคิดและเป็นกบที่กล้ากระโดดออกมาจากกะลา
ติดต่อ นพ. สมเกียรติ อธิคมกุลชัย
e-mail [email protected]